วันอาทิตย์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

แนวสอบตำรวจ ป.วิอาญา ชุด 4-30ข้อ

แนวข้อสอบตำรวจ ป.วิอาญา

๑.ก่อนสอบสวนปากคาผู้ต้องหา พงสฯ แจ้งข้อหาให้ทราบก่อนแล้ว จากนั้นแจ้งรายละเอียดในการกระทาผิดให้ทราบ ข้อใดถูกต้อง
ก) พงสฯ ปฏิบัติถูกต้องแล้ว
ข) พงสฯ ปฏิบัติไม่ถูกต้อง ทาให้การสอบสวนเสียไป การสอบสวนไม่ชอบ อัยการไม่มีอานาจฟ้อง
ค) พงสฯ ปฏิบัติไม่ถูกต้อง การสอบสวนไม่เสียไป แต่จะรับฟังเป็นพยานยืนยันการกระทาผิดของผู้ต้องหาไม่ได้
ง) พงสฯ ปฏิบัติถูกต้องแล้ว ศาลอาจรับฟังหรือไม่ก็ได้ แล้วแต่ดุลพินิจศาล
คาตอบ ข้อ ค

๒.พงสฯ แจ้งข้อหาให้ผู้ต้องหาทราบแล้ว ต่อมาสั่งไม่ฟ้อง โดยไม่มีพยานหลักฐานใดฟังได้ว่าผู้ต้องหาน่าจะกระทาผิดอาญา นอกจากคาร้องทุกข์ของผู้กล่าวหาเท่านั้น ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก) พงสฯ สามารถแจ้งข้อหากล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบได้ เพราะมีผู้กล่าวหาแจ้งความยืนยันการกระทาผิดไว้แล้ว
ข) พงสฯ ควรรวบรวมพยานหลักฐานตามสมควรก่อนว่าผู้ต้องหานั้นน่าจะได้กระทาผิดตามที่ถูกกล่าวหา จึงจะเรียกมาแจ้งข้อหาได้
ค) พงสฯ จะปฏิบัติตามข้อ ก. หรือ ข.ก็ได้ แล้วแต่ดุลพินิจตามสมควร
ง) พงสฯ อาจสั่งไม่ฟ้องโดยไม่ต้องแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาได้ เพราะมีเพียงผู้กล่าวหายันเพียงคนเดียว เป็นการให้ความเป็นธรรมกับผู้ต้องหา
คาตอบ ข้อ ข)

๓.ในคดีที่ไม่มีหมายจับ เมื่อผู้ต้องหาถูกเรียกเข้าพบ หรือ เข้ามอบตัว พงสฯ เอง พงสฯ จึงแจ้งข้อหา แต่ไม่จับกุมและควบคุมตัวไว้และสอบสวนปากคาไว้ ข้อใดถูกต้อง
ก) ถือว่าเมื่อแจ้งข้อหาและเจตนามอบตัวแล้ว ย่อมเป็นการจับ
ข) ไม่ถือว่าเป็นการจับ ไม่ต้องคานึงเรื่องการผัดฟ้อง หรือ ฝากขัง
36
ค) ไม่ถือว่าเป็นการจับ แต่ในคดีศาลแขวงต้องนาตัวผู้ต้องหาไปยื่นคาร้องขอผัดฟ้อง
ง) ไม่ถือว่าเป็นการจับ เมื่อสอบสวนเสร็จแล้ว ให้สาบานตนเพื่อปล่อยตัวไป และนัดมาในวันส่งสานวนได้
คาตอบ ข้อ ข)

๔.รถจักรยานยนต์หายจากบ้านพักนาย ก.เวลากลางคืน ต่อมาอีก ๑ สัปดาห์ นาย ข.ขับขี่รถจักรยานยนต์ดังกล่าวผ่านด่านตรวจถูกตรวจยึด ถามว่าชุดสายตรวจและ พงสฯ ปฏิบัติอย่างไรจึงจะถูกต้อง ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๓๔
ก) ชุดสายตรวจ จัดทาบันทึกจับกุมผู้ต้องหาพร้อมยึดของกลาง นาส่ง พงสฯ ดาเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ เวลากลางคืน หรือ รับของโจร พงสฯ รับตัว ควบคุมตัวไว้ดาเนินคดีต่อไปได้ทันที
ข) ชุดสายตรวจ จัดทาบันทึกตรวจยึดของกลาง นาส่ง พงสฯ ดาเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ เวลากลางคืน หรือ รับของโจร พงสฯ รับตัว รับของกลางไว้ ไม่ควบคุมตัว ผู้ต้องหาไว้ แต่สอบสวนปากคาแจ้งข้อหาดาเนินคดี นัดหมายมาพบเมื่อสอบสวนเสร็จเพื่อนาตัวพร้อมสานวนส่งพนักงานอัยการ
ค) ชุดสายตรวจ จัดทาบันทึกตรวจยึดของกลาง นาส่ง พงสฯ ดาเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ เวลากลางคืน หรือ รับของโจร พงสฯ รับตัว รับของกลางไว้ สั่งการให้ผู้ต้องหานั้นไปศาลเพื่อยื่นคาร้องขอออกหมายขังได้
ง) พงสฯ อาจใช้ดุลพินิจตามข้อ ข. หรือ ค.ก็ได้ แล้วแต่จะเห็นสมควร
คาตอบ ข้อ ง)

๕.รถจักรยานยนต์หายจากบ้านพักนาย ก.เวลากลางคืน ต่อมาอีก ๑ สัปดาห์ นาย ข.ขับขี่รถจักรยานยนต์ดังกล่าวผ่านด่านตรวจถูกตรวจยึดในคืนวันเสาร์ ถามว่าชุดสายตรวจและ พงสฯ ปฏิบัติอย่างไรจึงจะถูกต้อง ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๓๔
ก) พงสฯ กักตัวผู้ต้องหาไว้นอกห้องควบคุม เพื่อรอศาลเปิดทาการวันจันทร์ (ศาลเปิดทาการ) และไปยื่นคาร้องขอออกหมายขังได้ในโอกาสแรก
ข) พงสฯ สอบสวน แจ้งข้อหาแล้ว ต้องปล่อยตัวไป พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ต้องหาไปศาลในวันจันทร์ (ศาลเปิดทาการ)
เพื่อ พงสฯ จะได้ยื่นคาร้องขอออกหมายขังในโอกาสแรก
ค) พงสฯ ควบคุมไว้ดาเนินคดีตามปกติ เพราะในบันทึกจับกุมระบุข้อหาลักทรัพย์ หรือ รับของโจร ถือว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าในข้อหารับของโจรได้
ง) ไม่มีข้อใดถูก
คาตอบ ข้อ ข)

๖.ในคดีฆาตกรรม ผู้ต้องหาอายุ ๑๘ ปีเศษ ในวันที่นาตัวผู้ต้องหาไปนาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคารับสารภาพ ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก) พงสฯ ต้องจัดให้มีทนายความไปร่วมกับผู้ต้องหาเพื่อนาชี้ที่เกิดเหตุด้วย
ข) พงสฯ ต้องแจ้งให้เขาทราบว่า เขามีสิทธิที่จะไม่ไปนาชี้สถานที่เกิดเหตุได้
ค) หลังจากกลับจากที่เกิดเหตุแล้ว พนักงานสอบสวนสอบปากคาเพิ่มเติมโดยไม่ต้องจัดให้มีทนายความ เพราะผู้ต้องหายืนยันว่าไม่ต้องการมีทนายความ
ง) ไม่มีข้อใดถูก
คาตอบ ข้อ ง)

๗.ข้อใดไม่ถูกต้อง
ก) ผู้ต้องหาสามารถอ้างเอาผู้ต้องหาที่กระทาผิดด้วยกันเป็นบุคคลที่ตนไว้วางใจ เข้าร่วมฟังการสอบสวนได้
ข) ผู้ต้องหาสามารถอ้างให้บิดาซึ่งทางานต่างประเทศมาเข้าร่วมฟังการสอบสวนได้
ค) ผู้ต้องหามีสิทธิปลอมเอกสารแบบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืน (ป.๔) เพื่อประกอบการต่อสู้คดีอาญาที่ตนถูกกล่าวหาในคดีมีอาวุธปืนไว้ในความครองครองผิดกฎหมายได้
ง) ไม่มีข้อใดถูก
คาตอบ ข้อ ง)

๘.พงสฯ สอบสวนผู้ต้องหาโดยไม่ได้แจ้งให้เขาทราบว่า ถ้อยคาที่เขาจะให้การนั้น สามารถใช้เป็นพยานหลักฐานยืนยันตัวเขา
ในชั้นพิจารณาคดีได้ ข้อใด ถูกต้องที่สุด
ก) คาให้การนั้นเสียไปใช้ไม่ได้เลย
ข) คาให้การนั้นไม่เสียไป ใช้ได้โดยต้องฟังพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบด้วย
ค) คาให้การนั้นจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นไม่ได้
ง) ไม่มีข้อใดถูก
คาตอบ ข้อ ค)

๙.การสอบสวนผู้ต้องหาอายุไม่เกิน ๑๘ ปี พงสฯ ไม่ได้แจ้งให้ อัยการ นักจิตวิทยา หรือ นักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วม ผลทาง
กฎหมายจะเป็นอย่างไร
ก) เฉพาะคาให้การนั้นเสียไปใช้ไม่ได้เลย
ข) คาให้การนั้นไม่เสียไป ใช้ได้โดยต้องฟังพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบด้วย
ค) คาให้การนั้นจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นไม่ได้
ง) ถือว่าเป็นการสอบสวนไม่ชอบ ส่งผลให้พนักงานอัยการไม่มีอานาจฟ้องคดีนั้นเลย
คาตอบ ข้อ ค)

๑๐.พงสฯ สอบสวนผู้ต้องหาโดยไม่จัดหาทนายความ หรือ บุคคลที่ผู้ต้องหาไว้วางใจ เข้าร่วมฟังการสอบสวน ผลทางกฎหมาย
จะเป็นอย่างไร
ก) คาให้การนั้นเสียไปใช้ไม่ได้เลย
ข) คาให้การนั้นไม่เสียไป ใช้ได้โดยต้องฟังพยานหลักฐานอื่นๆ ประกอบด้วย
ค) คาให้การนั้นจะรับฟังเป็นพยานหลักฐานในการพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นไม่ได้
ง) ไม่มีข้อใดถูก
คาตอบ ข้อ ค)

๑๑.พงสฯ สอบสวนปากคาผู้ต้องหา ๒ ครั้งๆ แรกได้แจ้งให้ทราบแล้วว่า ถ้อยคาที่ผู้ต้องหาให้การนี้ สามารถใช้เป็น
พยานหลักฐานยืนยันตัวจาเลยในชั้นพิจารณาคดีได้ แต่การสอบสวนครั้งที่ ๒ พงสฯ ไม่ได้แจ้งถึงสิทธิดังกล่าวให้ทราบ
จาเลยยังคงยืนยันปฏิเสธอีก ผลทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร
ก) การสอบสวนครั้งที่ ๒ พงสฯ ไม่จาต้องแจ้งให้ทราบว่า ถ้อยคาที่จะให้การเพิ่มเติมนี้อาจใช้เป็นพยานหลักฐาน
ยืนยันตัวจาเลยในชั้นพิจารณาคดีได้ เพราะไม่มีอะไรจะยันจาเลย
ข) การสอบสวนครั้งที่ ๒ พงสฯ ต้องแจ้งให้ทราบอีกครั้งเสมอ ไม่มีข้อยกเว้นว่าไม่ต้องแจ้ง
ค) การไม่แจ้งตามข้อ ก) ทาให้คาให้การนั้นไม่อาจรับฟังเป็นพยานหลักฐานเพื่อยืนยันตัวจาเลยได้
ง) การสอบสวนปากคาผู้ต้องหาครั้งที่ ๒ เสียไป
คาตอบ ข้อ ก ฏีกา ๖๙/๒๔๘๙ และ ๗๕๖๘/๒๕๔๖

๑๒.พงสฯ พูดจาหว่านล้อมให้ผู้ต้องหารับสารภาพ โดยบอกว่า จะช่วยเหลือทางคดีให้ศาลลงโทษสถานเบา ผู้ต้องหาหลงเชื่อจึง
ได้ให้การรับสารภาพ ผลทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร
ก) การสอบสวนไม่ชอบ คาให้การนั้นเสียไปทั้งหมด
ข) การสอบสวนไม่ชอบ ทาให้ทั้งสานวนเสียไป
ค) การสอบสวนชอบ เพียงแต่จะรับฟังคาให้การนี้ไม่ได้เท่านั้น
ง) การสอบสวนชอบ รับฟังเป็นพยานหลักฐานในคดีนี้ได้ทั้งหมด
คาตอบ ข้อ ง

๑๓.ศาลจะรับฟังคาให้การผู้ต้องหาในข้อใดได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๓๕
ก) ถ้ารับสารภาพเสีย คงได้รับความเมตตากรุณาจากศาล เพราะเรื่องนี้มีพยานหลักฐาน แต่ความจริงยังไม่มีพยานหลักฐาน
ข) สอบสวนผู้ต้องหาเป็นเวลานานโดยผลัดเปลี่ยนกันเข้ามาสอบสวน ผู้ต้องหาต้องตื่นนอนทุก ๒ ชั่วโมงและยอมรับสารภาพในที่สุด
ค) ก.ขับรถพลิกคว่า เพื่อนนั่งมาข้างๆ ตาย (ก.ไม่รู้เรื่องเพื่อนตาย) ตอนแรก ก.รับสารภาพว่าขับเอง ต่อมาปฏิเสธ พงสฯ บอกว่า ให้รับมาเสียเถิด เพราะเพื่อนยังไม่ตาย (เป็นความเท็จเพราะเพื่อนตายไปแล้ว) รู้ความจริงหมดแล้ว ก.จึงยอมรับสารภาพ
ง) รับสารภาพมาเสีย นายใหญ่จะได้กันไว้เป็นพยาน
คาตอบ ข้อ ค อ้างฎีกา ๙๒๔/๒๕๔๔

๑๔.พงสฯ พูดหว่านล้อมให้รู้สึกผิดชอบในการกระทา จะให้พ่อแม่และภรรยาเข้าเยี่ยม จนผู้ต้องหารับสารภาพ ต่อมาได้นาตัว
ไปขยายผล ติดตามตรวจค้นยึดยาบ้าและปืนผิดกฎหมายได้จานวนหนึ่ง ตามคารับสารภาพ ข้อใดถูกต้องตาม ป.วิ.อาญา ม.
๑๓๕
ก) พงสฯ ฝ่าฝืน ม.๑๓๕ คารับสารภาพ ศาลจะไม่รับฟัง และพยานหลักฐานที่ได้มาก็ไม่ชอบ
ข) พงสฯ ฝ่าฝืน ม.๑๓๕ คารับสารภาพ ศาลจะไม่รับฟัง ส่วนพยานหลักฐานที่ได้มานั้นชอบแล้ว
ค) พงสฯ ฝ่าฝืน ม.๑๓๕ คารับสารภาพ ศาลรับฟังได้ แต่พยานหลักฐานที่ได้มา ไม่ชอบ
ง) พงสฯ ไม่ฝ่าฝืน ม.๑๓๕ คารับสารภาพ ศาลรับฟังได้ และพยานหลักฐานที่ได้มาก็ชอบด้วยกฎหมาย
คาตอบ ข้อ ง)

๑๕.ตารวจล่อซื้อเฮโรอีน ๑ ถุงได้จากจาเลย จากนั้น ตรวจค้นเฮโรอีนได้บริเวณหลังบ้านอีก ๖ ถุง ๓๕ หลอด จาเลยปฏิเสธว่า
เป็นของ ส.พ่อตา ตารวจจึงให้แม่ยาย ไปตาม ส.มาพบ หาก ส.มาก็จะปล่อยจาเลยพ้นข้อหามีเฮโรอีนอีก ๖ ถุง ๓๕ หลอด
แม่ยายบอกว่าไม่พบ ส.ตารวจจึงบอกกับจาเลยว่า เมื่อไม่ได้ตัว ส.มา จาเลยก็ต้องรับเอาเฮโรอีนจานวนหลังไว้และถูกแจ้ง
ข้อหาเพิ่มเติม จึงเขียนบันทึกตรวจค้นจับกุมว่า จาเลยรับสารภาพทั้งหมด ผลในทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร
ก) เข้าข่ายเป็นการกระทาด้วยวิธีใดๆ เพื่อให้จาเลยรับสารภาพ ทาให้การจับกุมและสอบสวนไม่ชอบ
ข) เข้าข่ายเป็นการกระทาด้วยวิธีใดๆ เพื่อให้จาเลยรับสารภาพ ทาให้คาให้การนั้นเสียไป
ค) เข้าข่ายเป็นการกระทาด้วยวิธีใดๆ เพื่อให้จาเลยรับสารภาพ ทาให้คาให้การนั้นไม่เสียไป แต่ศาลจะรับฟังเพื่อยัน
ตัวจาเลยไม่ได้
จ) ยังไม่เข้าข่ายลักษณะชักจูง หรือ กระทาด้วยวิธีการใดๆ เพื่อบังคับให้จาเลยรับสารภาพ
คาตอบ ข้อ ง ฎีกา ๔๗๖๕/๒๕๔๓

๑๖.จาเลยเป็นแก็งค์ค้ายาบ้า ถูกตารวจจับกุมได้ยาบ้าจานวนหนึ่งในตัว ตารวจรู้ว่ายังมียาบ้าซุกซ่อนอยู่ในบริเวณบ้านอีก จึง
พูดจาเกลี้ยกล่อมว่า หากมียาเสพติดให้นามามอบให้ จะได้รับโทษเบาลง จาเลยจึงพาตารวจไปที่ตอไม้ล้วงเอายาบ้าอีก
จานวนมากที่ซุกซ่อนอยู่ในโพรงตอไม้นั้นให้ตารวจ ผลทางกฎหมายจะเป็นอย่างไร
ก) ถือว่าเป็นการโน้มน้าว เกลี้ยกล่อม ให้คามั่นสัญญากับผู้ต้องหา เป็นการฝ่าฝืน ป.วิ.อาญา ม.๑๓๕ การสอบสวน
ปากคาเสียไป
ข) ไม่ถือว่าเป็นการพูดจาโน้มน้าว ให้คามั่นสัญญา ไม่ผิด ป.วิ.อาญา ม.๑๓๕ เพราะเป็นการพูดขณะปฏิบัติหน้าที่
ระหว่างตรวจค้นและจาเลยสมัครใจกระทาการเอง
ค) ถือว่าเป็นการโน้มน้าว เกลี้ยกล่อม ให้คามั่นสัญญากับผู้ต้องหา เป็นการฝ่าฝืน ป.วิ.อาญา ม.๑๓๕ แต่การสอบสวนปากคาไม่เสียไป ศาลไม่อาจรับฟังเพื่อลงโทษจาเลยได้
ง) ไม่มีข้อใดถูก
คาตอบ ข้อ ข ฎีกา ๑๕๔๒/๒๕๔๐

๑๗.ผู้ต้องหาและภรรยา เป็นแก็งค์ค้ายาบ้า กรณีใดไม่ถูกต้อง ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๓๗
ก) พงสฯ ตรวจที่เกิดเหตุในบ้านหลังหนึ่ง สั่งให้กักตัว ห้ามภรรยาผู้ต้องหาออกไปจากบ้านหลังนั้นได้ ระหว่างตรวจค้น
ข) พงสฯ กักตัวลูกชายอายุ ๑๕ ปี ไม่ให้ออกจากบ้านนั้นได้ด้วย ในระหว่างตรวจค้น
ค) พงสฯ กระทาการตามกรณีข้อ ก และ ข ได้อีก แม้ในระหว่างสอบสวนผู้ต้องหาอยู่ที่สถานีตารวจได้
ง) พงสฯ สั่งให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจหาร่องรอย คราบยาเสพติดให้โทษในบ้านพักผู้ต้องหาได้แม้ตนเองจะไม่อยู่ในที่บ้านหลังเกิดเหตุด้วย
คาตอบ ข้อ ค

๑๘.ข้อเท็จจริง ข้อใดต่อไปนี้ ถูกต้องที่สุด ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๓๘
ก) พงสฯ มีสิทธิขอรับเอกสารเกี่ยวกับความเป็นมาแห่งชีวิตและความประพฤติอันเป็นอาจิณ จากท้องที่อื่นมา
ประกอบสานวนการสอบสวนในคดีที่ตนเองสอบสวนได้ และไม่จาเป็นต้องแจ้งให้ผู้ต้องหาทราบ
ข) พงสฯ มีสิทธิคัดเลือกเอกสารต่างๆ ที่ได้มา โดยไม่รวมเข้าสานวนได้ เพราะเป็นดุลพินิจของ พงส.ฯ ที่จะ
คัดเลือกไม่ให้รกสานวนและไม่เกิดประโยชน์ในการนาสืบ
ค) วัตถุสิ่งของที่ไม่ใช่ของกลางในคดี แต่ได้มาระหว่างการสอบสวน ไม่ต้องจัดทาบัญชีของกลาง หรือ บัญชี
รายละเอียด ไม่ต้องนาเข้าในสานวนได้ เพราะไม่ได้เสนอให้อัยการฟ้องริบ
ง) ไม่มีข้อใดถูกต้อง
คาตอบ ข้อ ง

๑๙.ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๓๙ ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก) พงสฯ สอบปากคาผู้ต้องหา ๒ ครั้ง ไม่นาคาให้การครั้งแรก ประกอบสานวน มีแต่ครั้งหลัง อ้างว่า ผู้ต้องหา ไม่ประสงค์จะให้นาคาให้การครั้งแรกประกอบสานวน
ข) พงสฯ สอบสวนผู้ต้องหาครั้งแรก ในฐานะผู้ให้ถ้อยคา หรือ พยาน โดยไม่ได้แจ้งสิทธิของผู้ต้องหาให้ทราบ ต่อมาสอบสวนในฐานะผู้ต้องหาๆ ขอยืนยันคาให้การเดิมทุกประการ
ค) คาให้การเดิมของผู้ต้องหานั้น ปฏิเสธลอยๆ ไม่มีประเด็นสาคัญ และ ผู้ต้องหาไม่ประสงค์จะใช้ของเดิม พงสฯ ก็ต้องนาประกอบสานวนด้วยเสมอ
ง) พงสฯ ท้องที่ใหม่ ไม่นาคาให้การผู้กล่าวหาที่เกิดจากการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายประกอบสานวนของตนที่ได้รับโอนสานวนมา ได้ (พงสฯ เดิม รับแจ้งความสอบสวนไม่ชอบไม่มีอานาจสอบสวน)
คาตอบ ข้อ ค อ้างฎีกา ๙๒๙/๒๕๓๗

๒๐.ข้อใดต่อไปนี้ ถูกต้องที่สุด
ก) คดีไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้กระทาความผิดและมีอัตราโทษจาคุกอย่างสูงไม่เกิน ๓ ปี ให้ พงสฯ ทาความเห็นควรให้งดการสอบสวน และเสนอไปยังพนักงานอัยการ
ข) คดีไม่ปรากฏว่าผู้ใดเป็นผู้กระทาความผิดและมีอัตราโทษจาคุกอย่างสูงเกิน ๓ ปี ให้ พงสฯ ทาความเห็นงดการสอบสวน และเสนอไปยังพนักงานอัยการ
ค) สานวนตามข้อ ก และ ข้อ ข เมื่อพนักงานอัยการสั่งให้งด หรือ ให้ทาการสอบสวนต่อไป ให้ พงสฯ ปฏิบัติไปตามนั้น
ง) ไม่มีข้อใดถูก
คาตอบ ข้อ ง

๒๑.ข้อใดต่อไปนี้ ถูกต้องที่สุด
ก) คดีที่ พงสฯ สั่งไม่ฟ้อง เสนอสานวนไปยังอัยการนั้น พงสฯ จะต้องสั่งปล่อยตัวผู้ต้องหานั้นทันที
ข) คดีตามข้อ ก) พงสฯ ยังมีอานาจสั่งปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหานั้นได้
ค) คดีที่ พงสฯ สั่งฟ้อง จะต้องได้ตัวผู้ต้องหาไปพร้อมสานวนเพื่อส่งอัยการทุกคดีเสมอ
ง) คดีแจ้งข้อหาไม่จับกุมตัว ถึงวันนัดส่งสานวน ผู้ต้องหาไม่มา อัยการไม่มีสิทธิไม่รับสานวนการสอบสวนนั้น
คาตอบ ข้อ ข

๒๒.พงสฯ คดีแรกฝากขังจาเลยต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ ซึ่งเป็นศาลที่ไม่มีเขตอานาจพิจารณาพิพากษาคดีนั้น ศาลอาญา
กรุงเทพใต้อนุญาตให้ฝากขังได้และมีคาสั่งปล่อยชั่วคราวจาเลยนั้นไป ต่อมามีพนักงานอัยการฟ้องจาเลยคนเดียวกัน (ใน
คดีหลัง) ต่อศาลนี้เป็นอีกคดีหนึ่งซึ่งเป็นศาลที่มีเขตอานาจพิจารณาพิพากษาคดีหลัง ต่อไปนี้ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก) ทนายจาเลยคดีหลัง ต่อสู้ว่า อัยการไม่มีอานาจฟ้องคดีหลังต่อศาล เพราะ พงสฯ คดีหลังไม่นาตัวผู้ต้องหาส่งอัยการพร้อมสานวนในคดีหลังก่อน เป็นการฟ้องไม่ชอบ
ข) ศาลไม่อาจรับฟ้องคดีหลังที่อัยการคดีหลังยื่นฟ้องต่อศาลได้ เพราะ พงสฯ ในคดีหลังไม่ส่งตัวจาเลยพร้อมกับสานวนให้พนักงานอัยการเพื่อฟ้องศาล อีกทั้งคดีแรกศาลไม่มีอานาจพิจารณาพิพากษาคดี ไม่อาจถือว่าผู้ต้องหาถูกควบคุมตัวอยู่ในอานาจศาลแล้ว อันจะส่งผลให้อัยการในคดีหลังจะยื่นฟ้องคดีได้
ค) กรณีนี้ไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ให้พนักงานอัยการต้องจัดการอย่างหนึ่งใดเพื่อให้ได้ตัวจาเลยมา (ให้ พงสฯ ติดตามนาตัวหรือจับกุมตัวมาเพื่อฟ้อง) ศาลสามารถสั่งนายประกันให้นาตัวผู้ต้องหาในคดีแรกมาศาลเพื่อฟังคาฟ้องของอัยการคดีหลังได้
ง) ถูกทั้งข้อ ก. และ ข.
คาตอบ ข้อ ค ฎีกา ๒๗๔๗/๒๕๕๑

๒๓.ข้อใด ถูกต้องที่สุด
ก) คดีอาญาเรื่องหนึ่ง ผกก.สั่งฟ้อง อัยการจังหวัดสั่งไม่ฟ้อง เสนอสานวนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ๆ มีความเห็น
แย้งควรสั่งฟ้อง สานวนนี้ ต้องรอการชี้ขาดของอธิบดีอัยการเขตในพื้นที่นั้น
ข) คดีที่อัยการแจ้งคาสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้อง เฉพาะผู้เสียหาย และผู้ต้องหา เท่านั้น มีสิทธิขอทราบสรุปพยานหลักฐาน
พร้อมความเห็นของ พงสฯ และพนักงานอัยการ ในการสั่งคดีได้
ค) การขอรับสรุปพยานหลักฐานพร้อมความเห็นดังกล่าว จะยื่นขอในเวลาใดๆ ก็ได้
ง) ไม่มีข้อใดถูก
คาตอบ ข้อ ง

๒๔.ข้อใดไม่ถูกต้อง ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๔๓ วรรคสอง (ก)
ก) พนักงานอัยการ สั่งให้พนักงานสอบสวน นาตัวพยานอื่นที่ พงสฯ ไม่เคยสอบสวนมาก่อนในคดีนั้น เพื่อซักถามประกอบการสั่งคดีได้
ข) พนักงานอัยการมีอานาจสั่งให้พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหาดาเนินคดีกับพยานคนหนึ่งในสานวนคดีนั้นๆ ได้ และ พงสฯ ต้องปฏิบัติตาม
ค) พนักงานอัยการ สั่งการให้พนักงานสอบสวนอีกท้องที่หนึ่งเปรียบเทียบปรับผู้ต้องหาในคดีที่ พงสฯ อีกท้องที่หนึ่งส่งไปให้ดาเนินคดีได้
ง) พนักงานอัยการ มีอานาจซักถาม บันทึกปากคาพยาน หรือ ผู้ต้องหา ที่ พงสฯ นาตัวไปพบเองได้
คาตอบ ข้อ ข)

๒๕.ข้อใด ถูกต้องที่สุด ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๔๓ วรรคท้าย
ก) จับกุมผู้ต้องหามาโดยไม่ชอบ เพราะไม่มีหมายจับ ไม่ใช่ความผิดซึ่งหน้า ผู้ต้องหาตายระหว่างนาส่งพนักงาน
สอบสวน ไม่ต้องเสนอสานวนไปยังอัยการสูงสุดเพื่อสั่งคดี
ข) จับกุมผู้ต้องหาในความผิดซึ่งหน้า พลขับ ขับรถเร็วประมาทรถพลิกคว่าผู้ต้องหาตาย ไม่ต้องเสนอสานวนไปยัง
อัยการสูงสุดเพื่อสั่งคดี
ค) ผู้ต้องหาต่อสู้ขัดขวางระหว่างจับกุม ตารวจชกหน้าเพื่อระงับเหตุและป้องกันตัว ผู้ต้องหาตายทันที ต้องเสนอ
สานวนนี้ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อสั่งคดี
ง) ผู้ต้องหาที่ ๑ กับพวก หลบหนีการจับกุม ตารวจติดตามจับกุม ยิงยางรถที่ควบคุมผู้ต้องหาพลิกคว่า ผู้ต้องหาที่ ๒
นั่งมาด้วยกันฆ่าผู้ต้องหาที่ ๑ เพื่อปิดปากและตนเองหลบหนีไป ต้องเสนอสานวนนี้ไปยังอัยการสูงสุดเพื่อสั่งคดี
คาตอบ ข้อ ง อ้างคาบรรยาย พล.ต.ต.สุวัณชัย ใจหาญ คาอธิบาย ป.วิ.อาญา เล่ม ๒ กทม.โรงพิมพ์มิตรสยาม.๒๕๓๖ หน้า ๓๙๙

๒๖.ข้อใด ถูกต้องที่สุด
ก) อัยการจังหวัดสั่งไม่ฟ้องคดีไว้แล้ว เสนอสานวนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด อัยการสูงสุดยังมีอานาจสั่งฟ้องคดีนี้ได้
อีก
ข) อัยการสูงสุดชี้ขาดให้ฟ้องคดีตามความเห็นแย้งของ ผบ.ตร.แล้ว ต่อมามีการร้องขอความเป็นธรรม อัยการสูงสุด
พิจารณาจากสานวนเดิม ย่อมมีอานาจกลับคาสั่งเป็นไม่ฟ้องได้
ค) คาสั่งไม่ฟ้องคดีนั้น แม้ผู้กล่าวหา ผู้ต้องหาจะทราบจาก พนักงานอัยการแล้ว พงสฯ ก็ต้องแจ้งให้ทราบอีกด้วย
ง) อัยการมีคาสั่งเด็ดขาดไม่ฟ้องคดีแล้ว ต่อมา พงสฯ สามารถนาพยานที่ไม่เคยปรากฏในสานวนการสอบสวนมา
ก่อน แต่ศาลอาจรับฟังและลงโทษผู้ต้องหาในคดีนั้นได้ มารื้อฟื้นคดีใหม่ได้
คาตอบ ข้อ ง ๔๐๖๔/๒๕๒๔ ข) ๓๒๗๘/๒๕๒๒ ค) อ้างตามคาสั่ง มท.ที่ ๒๐๗/๒๕๐๐ ลง ๑๘ เม.ย.๒๕๐๐ ข้อ ๗ ง) อ้างคาบรรยาย ป.วิ.อาญา หน้า ๔๕๐ พ.ต.ท.จักรพงษ์ วิวัฒน์วานิช บก.รร.นรต.
๒๗.โทษของการละเลยไม่แจ้งให้เจ้าพนักงานทาการชันสูตรพลิกศพ คือ
ก) ปรับไม่เกิน ๑๐๐ บาท
ข) ปรับไม่เกิน ๕๐๐ บาท
ค) ปรับไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท
ง) ปรับไม่เกิน ๒,๐๐๐ บาท
คาตอบ ข้อ ค

๒๘.กรณีพบซากเด็กทารกที่วัดไผ่เงิน จานวนมาก ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก) ต้องทาการชันสูตรพลิกศพ ทุกซาก
ข) อาจคัดเลือกชันสูตรพลิกศพบางศพได้ หากได้ความจริงว่า เป็นการตายผิดธรรมชาติเท่านั้น เพราะบางซากอาจ
แท้งสมบูรณ์ บางซากอาจตายภายหลังคลอด
ค) ไม่ต้องชันสูตรพลิกศพเลย เพราะเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่พยานหลักฐานสืบได้ว่าเป็นการทาแท้งสมบูรณ์ หรือ มีสภาพ
บุคคลหลังคลอดแล้วต่อมาตาย
ก) แล้วแต่นโยบายผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะสั่งการให้ปฏิบัติอย่างไร ก็ปฏิบัติไปตามนั้น
คาตอบ ข้อ ก

๒๙.กรณีการนาศพเด็กไปเก็บไว้ที่สุสานวัดไผ่เงิน ผู้กระทาผิดต้องรับโทษฐานใด ข้อใดถูกต้องที่สุด
ก) ไม่แจ้งให้เจ้าพนักงานไปทาการชันสูตรพลิกศพ
ข) ซ่อนเร้น ย้าย ทาลายศพ หรือ ส่วนของศพเพื่อปิดบังการเกิด การตาย หรือ สาเหตุการตาย
ค) กระทาการใดๆ แก่สภาพศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทาให้การชันสูตรพลิกศพหรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ง) กระทาผิดตามข้อ ค และเป็นการกระทาโดยทุจริต หรือ เพื่ออาพรางคดี
คาตอบ ข้อ ง

๓๐.ในคดีวิสามัญฆาตกรรม ตาม ป.วิ.อาญา ม.๑๕๕/๑ ข้อใด ถูกต้องที่สุด
ก) หมายความถึงเฉพาะกรณีความตายเกิดขึ้นโดยการกระทาของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ หรือ
ตายในระหว่างการควบคุมของเจ้าพนักงานซึ่งอ้างว่าปฏิบัติราชการตามหน้าที่ เท่านั้น
ข) พนักงานอัยการ มีอานาจเพียงให้คาแนะนา ตรวจสอบพยานหลักฐานเท่านั้น ไม่อาจถามปากคาเอง หรือ สั่งให้
ถามปากคาได้
ค) พงสฯ จาเป็นต้องรออัยการเข้าร่วมสอบสวนคดีดังกล่าวเสมอ เพราะเจตนารมณ์กฎหมาย ต้องการให้อัยการเข้ามา
มีส่วนร่วมในคดีดังกล่าวเพื่อความบริสุทธิ์ยุติธรรม หากฝ่าฝืนย่อมเป็นการสอบสวนที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ง) ไม่มีข้อใดถูกต้อง
คาตอบ ข้อ ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น